5.31.2554

The Wizard (1989)

    เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีเวลาว่้างจะเล่นเกม เราก็เลยมาแนะนำหนังกันดีกว่า ถึงแม้ว่ามันจะผิดคอนเซปต์ของบล็อกไปหน่อยก็เถอะ เอาเป็นว่าเราจะมาแนะนำหนังที่เกี่ยวกับเกมก็แล้วกัน เรื่อง The Wizard จากปี 1989

   สำหรับคนที่สนใจเกมเก่าๆ นั่งดูรีวิวเกมเก่า ตามเว็บไซต์ต่างๆ อาจจะเคยผ่านตามาบ้าง The Wizard เป็นเรื่องของจิมมี่ เด็กพิเศษ ที่วันๆ ไม่ทำอะไรนอกจากอยากจะไปแต่ "แคลิฟอร์เนีย" และสิ่งที่จิมมี่ทำก็คือ  หยิบกล่องข้าวของตัวเองใบนึง แล้วก็ออกเดินไปแคลิฟอร์เนีย พ่อเลี้ยงกับแม่ของจิมมี่ก็รู้สึกสุดทนกับพฤติกรรมประหลาดของลูกชาย ก็เลยจับจิมมี่ส่งไป "บ้าน" เด็กพิเศษ คอรี่พี่ชายของจิมมี่ รู้สึกทนไม่ได้กับชะตากรรมของน้องชาย ก็เลยช่วยจิมมี่ออกมาจาก "บ้าน" และทั้งสองคนก็เดินทางไป "แคลิฟอร์เนีย" ชะลาล่า โดยมีพ่อและพี่ชายของคอรี่ และนักตามเด็กที่ถูกจ้างโดยแม่ของจิมมี่คอยติดตามไล่ล่าทั้งสองคนไปตลอดทาง
   
   ระหว่างทางจิมมี่กับคอรี่ก็ได้เจอกับสาวนาม ฮาเลย์ และทั้งสามคนก็ร่วมมือร่วมใจกัน เดินทางไป "แคลิฟอร์เนีย" โดยหาเงินสนับสนุนการเดินทางโดยการพนันแข่งวีดีโอเกมกับคนที่เจอระหว่างทางไปเรื่อยๆ 

"การพนันเป็นสิ่งไม่ดีนะหนูๆ"
เนื่องจากจิมมี่เป็นนักเล่นเกมฝีมือเทพ จึงทำให้ชนะทุกคนที่มาแข่งด้วย และได้ฉายาว่า "The Wizard" (สำหรับคนที่สงสัยว่าชื่อหนังมาจากไหน) ระหว่างทางคอรี่กับฮาเลย์ก็ข่าวว่าจะมีการแข่งขันเล่นวีดีโอเกม  "Video Armageddon" ชิงรางวัล 50000 เหรียญที่ "แคลิฟอร์เนีย" ทั้งสองคนก็เลยจะพาจิมมี่ไปเข้าแข่ง แต่ระหว่างทางพวกเขาก็ได้เจอ ลูคัส เทพแห่งเกม NES (แฟมิค่อมเวอร์ชั่นอเมริกา) ผู้มีเกม NES ครบชุดและครอบครองถุงมือ Power glove ผู้ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญในการแข่งเกมครั้งนี้


   โอเคนั่นเป็นเนื้อเรื่องย่อ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรแตกต่างมาก เมื่อเทียบกับหนังแนวผจญภัย Road trip ทั่วไป  แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นมากคือ การที่ทั้งเรื่องมีโฆษณา (ที่เกือบจะไม่) แฝงให้กับ Nintendo และ Universal Studios Hollywood อยู่เต็มไปหมดทั้งเรื่อง แบบที่เราไม่มีทางได้เห็นของอย่างนี้ในยุคสมัยนี้ (และไม่ต้องแปลกใจเพราะหนังเรื่องนี้สร้างโดย Nintendo และ Universal)




เทรล์เลอร์หนัง
   
   ยกตัวอย่างเช่น 
   1) เกมแรกที่จิมมี่เล่นคือ Double Dragon ที่จิมมี่ทำได้ 54563 คะแนน (มั๊ง) ในเวลา 5 นาที  
   2) พ่อและพี่ชายของคอรี่ตอนจะออกไปตามคอรี่ ลูกชายที่หายไป ดันขนเครื่องเกม NES ไปด้วย เพื่อไปเล่นเกม Zelda ระหว่างทาง
  3) อย่างที่บอกข้างบนตัวร้ายในเรื่อง ลูคัส มีเกมครบชุดและถุงมือ Power glove กับประโยคอมตะประจำตัว "I love the power glove. It's so bad!"
  4) การแข่งขันเกมจัดขึ้นที่  Universal Studio (ประมาณสวนสนุกเหมือนดิสนีย์แลนด์) ที่ยังไม่เปิดตอนสมัยนั้น และตัวเอกวิ่งวนไปมาในสตูดิโอประมาณครึ่งชั่วโมงตอนช่วงท้ายของหนัง
   5) ฮาเลย์นางเอกของเรื่องคอยโทรไล่ถาม Nintendo Hotline เพื่อหาข้อมูลของเกมต่างๆ ให้จิมมี่ เพื่อใช้ในการเข้าแข่งขัน
   6) เกมที่แข่งในรอบแรกคือ นินจา ไกเดน ที่เจ้าของบล็อกไม่เคยเล่น
   7) สุดท้าย และแจ่มที่สุดในโฆษณาแฝงชุดนี้ก็คือ เกมที่ใช้แข่งชิงชนะเลิศคือ มาริโอ้ 3 ที่สมัยนั้นยังไม่วางขาย และกำลังไฮป์สุดๆ
   และโฆษณาอื่นๆ อีกมากมาย

   น่าเสียดายที่สมัยนั้นผมยังปีนต้นมะม่วง ขุดดินสวนหลังบ้านเล่นอยู่ เลยไม่ได้รับรู้ความคลั่งไคล้ของมาริโอ้ 3 ในช่วงนั้น และพึ่งจะมาได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สำหรับแฟนนินเท็นโด้และนักศึกษาวิชาการตลาดที่ไม่เคยดู ผมแนะนำให้หามาดูเล่นๆ สำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาดูโฆษณาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง สามารถดูเวอร์ชั่นสั้นๆ พร้อมคำวิจารณ์ ได้ที่ RetrowareTV (วีดีโออันแรกที่ The Wizard 3 Part Review) รับรองว่าได้อรรถรสเช่นเดียวกัน (หาลิงค์เจอแล้ว สามารถดูจาก RetrowareTV ข้างล่างนี้ได้เลย)







แหล่งอ้างอิง

5.18.2554

มาเล่น Angry Birds กันเถอะ (Google Chrome - 2011)

    วันนี้ขอนอกคอนเซปนิดนึง วันนี้เราไม่รีโทรเท่าไหร่นะครับ

    หลังจากผู้ที่มีไอโฟน ไอแพด และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ได้ซื้อและเล่นเกม Angry birds ตั้งแต่ปี 2009 มาปีนี้ (2011) โชคเข้าข้างพวกเราผู้ที่มีแต่พีซีไว้ใช้ (เอาแต่) เล่นเกมกันบ้าง เพราะโปรโมชั่นล่าสุดของกูเกิ้ล โครมวันนี้คือ ดาวน์โหลดกูเกิ้ลโครมวันนี้ ได้เล่น Angry birds ฟรี!!

    แค่ไปที่ Web store ของกูเกิ้ล (https://chrome.google.com/webstore?hl=en-US) โดยใช้กูเกิ้ลโครม และล็อกอินโดยใช้แอคเคานท์ของกูเกิ้ล และอินสตอลเกม Angry birds เท่านี้ก็ได้เล่นกันแล้ว (เมื่อไหร่กูเกิ้ลจะมาจ่ายค่าโฆษณาให้ผมบ้าง)

 
    โดยในเกมเป็นเรื่องเกี่ยวกับนกของเรา จะไปแก้แค้นแก๊งค์หมูที่ขโมยไข่ของนกไปทอดกิน โดยการที่แก๊งค์นกของเราจะขึ้นไปบนหนังสติ๊กที่คอยยิงจู่โจม หมูที่อยู่ซ่อนในหอคอยที่ทำจากไม้ แก้ว และก้อนหิน โดยเราจะมีนกแตกต่างกันห้าสีที่มีความสามารถแตกต่างกัน 5 อย่าง ซึ่งจะแสดงความสามารถออกมาหลังจากที่เรากดเมาส์อีกครั้งหลังจากยิงออกไปแล้ว

นกสีแดง - เป็นพลทหารกระจอก มีความสามารถแค่พุ่งเร็วขึ้นนิดหน่อย
นกสีฟ้า - สามารถแยกออกเป็นสามตัวได้ หลังจากคลิ๊ก
นกสีเหลือง - พอคลิ๊กแล้วจะพุ่งได้เร็วมาก
นกสีดำ - หลังจากพุ่งไปกระแทกอะไรสักอย่างหรือ ว่าเราคลิ๊กเมาส์ นกจะระเบิด
นกสีขาว - จะสามารถปล่อยไข่เหมือนทิ้งระเบิดได้ เจ้าตัวนี้จะอู้ที่สุด เพราะพอมันปล่อยไข่แล้วจะบินหนีไป

มายิงหมูกันเถอะ

    โดยทั้งหมดจะมี 3 ด่าน ด่านละ 21 เลเวล ในแต่ละเลเวล เราจะสามารถเก็บดาวได้มากที่สุด 3 ดาว และในเวอร์ชั่นกูเกิ้ล โครมนี้จะมีเลเวลพิเศษเพิ่มให้อีก 7 เลเวล โดยที่เราจะต้องยิงสัญลักษณ์ กูเกิ้ล โครม ที่ซ่อนอยู่ในบางเลเวล

   เอาล่ะครับสุดท้ายมาดูคะแนนจากคันจุ๊วิจารณ์โคตรเอียงกันบ้าง


    คันจุ๊จัดให้เป็นเกมเทพ เพราะคันจุ๊นั่งเล่นจบใน 2 วัน แต่ว่ามันสั้นไปหน่อย ถ้าใครยิงหมูไม่หายมันส์มือ สามารถนั่งยิงเก็บสามดาวให้ครบทุกด่านต่อไปได้

    UPDATE (31.05.2011):  หลังจากทำการวีดีโอคอนเฟอเร้นท์กับคันจุ๊ (หรูใช่มั๊ยล่ะ) เมื่อหลายวันก่อน คันจุ๊บอกว่าขอลดคะแนนเป็น คันจุ๊นั่งเล่นแทน เพราะตัวเกมสั้นมาก คันจุ๊นั่งเล่นสองวันก็จบแล้ว เพราะฉะนั้นจึงขอเปลี่ยนโล่ห์รางวัลเป็นอันนี้นะทุกคน

5.10.2554

Khanju rules!

    เวลาผมอ่านรีวิวเกมจากสำนักต่างๆ ผมก็จะข้ามส่วนที่เป็นเนื้อหาบรรยายเวิ่นเว้อต่างๆ ไปอ่านสรุปผล และคะแนนที่เกมนั้นได้ พอมาเขียนบล็อกตัวเองบ้าง ปรากฏว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะให้มีคะแนน เพราะไม่ได้ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นรีวิวเกมเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอมาคิดดูอีกที มานั่งตัดสินแจกแต้มเกมที่เล่นก็น่าสนุกดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคราวนี้ผมก็เลยคิดระบบการให้คะแนนเกมออกมาเป็นสามระดับ โดยมีชื่อการรีวิวว่า
    "Khanju's Extremely Biased Game Review"
    
    หรือ "รีวิวเกมสุดเอียงโดยคันจุ๊" นั่นเอง โดยมีดารารับเชิญจากการ์ตูน คันจุ๊อั๋นเกินพิกัด ผู้ที่สนใจสามารถติดตามอ่านทั้ง 10 เอพพิโสดได้ที่ http://jakaruuth.blogspot.com/ (ซีซั่นสองจะมาเร็วๆ นี้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่) โดยคะแนนจะแบ่งเป็นดังนี้คือ

1. คันจุ๊ปาจอย


เป็นคะแนนสำหรับเกมที่เล่นแล้วเซ็ง เกมที่ได้คะแนนนี้ไม่จำเป็นต้องห่วยหรือแย่ (แต่เกมที่ห่วยหรือแย่ก็ได้คะแนนอันนี้เช่นเดียวกัน) แต่อาจจะยากเกินความสามารถคันจุ๊ แบบที่เล่นยังไงก็ไม่ผ่านซะที คันจุ๊เซ็งก่อนจะเล่นจบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่ผู้เล่นทั่วไปควรหลีกเลี่ยง





2. คันจุ๊นั่งเล่น
 

สำหรับคะแนนนี้ผมจะให้กับเกมที่นั่งเล่นได้เนียนๆ เพลินๆ แต่บางทีไม่ได้มีแรงบันดาลใจให้เล่นจนจบ ซึ่งรวมถึงเกมแนวแปลกใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ มีระบบการเล่นที่ดี แต่อาจจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ภาพไม่สวย เป็นต้น





3. คันจุ๊โชว์เมพ


มีน้อยเกมมากที่จะได้คะแนนในระดับนี้ เพราะนอกจากจะต้องเป็นเกมสุดเจ๋งแล้ว จะต้องเป็นเกมที่ผมนั่งเล่นจนจบด้วย ซึ่งบนโลกนี้มีไม่ถึง 50 เกม (ล่ะมั๊ง) โดยคะแนนจะเป็นรูปคันจุ๊ชี้นิ้วไปยังท้องฟ้า และแผดเสียงหัวเราะ "กว๊า...ฮ่า ฮ่า!!"




 
    เราก็ได้เห็นทฤษฎีกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันบ้างว่าสามเกมที่ผมเขียนถึงก่อนหน้านี้ ได้คะแนนระดับอะไรกันบ้าง

1. Diablo (2000)



   เกม Hack & Slay ในตำนาน แต่เล่นไม่จบซะที เอาไปแค่คันจุ๊นั่งเล่นพอ


2.  Super Mario Bros. 3 (1988)



    หนึ่งในเกมที่เล่นจนจบ ถึงแม้ว่ากว่าจะจบ มาริโอจะต้องเสียชีวิตไปหลายโหลก็ตาม ได้คะแนนคันจุ๊โชว์เมพ


3. Golgo 13 (1988)


    เกมนี้ไม่ต้องพูดถึง คันจุ๊ปาจอยแน่นอน


5.04.2554

Golgo 13 (1998)

    หลังจากได้ดู Angry Video Game Nerd เล่น Golgo 13 ในวีดีโอล่าสุดแล้ว (ดูวิดีโอ I play Golgo 13 during charity event) ก็มานึกได้ว่า เกม Golgo 13 นี้ก็เป็นหนึ่งในแรนดอมไอเท็ม ที่หลงเข้ามาอยู่ในบ้านได้ยังไงไม่รู้สมัยตอนเด็กๆ ก็เลยมานั่งเขียนถึงวันนี้ดีกว่า

 พี่ดุ๊กไม่หล่อแต่เร้าใจ

    สมัยก่อนผมก็เหมือนเด็กหลายๆ คน เล่นเกมทุกเกมที่หาได้ โดยที่ไม่เกี่ยงว่าเป็นภาษาอะไร เนื้อเรื่องไม่จำเป็นต้องเข้าใจก็ได้ ขอแค่ได้เล่น อัดผู้ร้ายไปเรื่อยๆ ก็โอเคแล้ว

    ผมพึ่งจะมารู้เรื่องราวทั้งหมดเมื่อวานนี้ ที่มานั่งเล่นใหม่ (รวมกับข้อมูลจากวิกิพีเดีย) ว่า Golgo 13 เป็นเกมเกี่ยวกับ สายลับ (พี่ Duke Togo พระเอกหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจของเรา) ที่ต้องมาสืบคดีเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ขนส่งอาวุธชีวภาพของหน่วย CIA ที่ถูกยิงตก และวัคซีนได้ถูกขโมยไป เพื่อแก้ข้อสงสัยให้ตัวเอง เนื่องจาก CIA สงสัยว่า Duke Togo (ไม่รู้จริงๆ อ่านว่าอะไร แต่ผมอ่านทูโก และนึกถึงข้าวกล่อง Easy Go ตลอด) มีความเกี่ยวพันกับ KGB และเป็นคนยิงเฮลิคอปเตอร์ตก

    ผู้หญิงในเกมน่ารักดี  :)

    พี่ดุ๊กก็เลยตามสืบคดีไปเรื่อยๆ ตัวเกมผสมผสานหลายๆ อย่าง มีทั้งการเดินไปตามฉากทางด้านข้าง (side-scrolling) แบบเกมส่วนใหญ่ยุคนั้น คอยต่อสู้กับคนร้ายไปเรื่อยๆ จากนั้นสักพักก็เปลี่ยนเป็นมุมมองเป็นเกมยิงแบบบุคคลที่หนึ่ง (first-person shooter) สักพักก็ไปขับเฮลิคอปเตอร์ยิงต่อสู้กับเครื่องบินรบ อีกเดี๋ยวก็ไปว่ายน้ำ แล้วก็มาเป็นเขาวงกตแบบบุคคลที่หนึ่งอีก
 
     ส่วนเกมนี้ก็มีความยากแบบเกมในสมัยนั้นเหมือนกัน พี่ดุ๊กมีพลังสองร้อย แต่โดนสอยทีลดครั้งละ 30 มีกระสุนจำกัด มีชีวิตเดียว ตายแล้วตายเลย แต่สามารถ continue ได้ไม่จำกัด (อันนี้ยังไม่แน่ใจนะครับ) ที่น่าแปลกใจก็คือ เกมนี้ไม่มีการเก็บไอเท็ม แต่พลังชีวิตและจำนวนกระสุนจะเพิ่มเมื่อเราจัดการศัตรูได้ ผมเล่นไปๆ ก็รู้สึกถึงความซึนเดเระของคนทำเกมว่า "เค้าน่ะไม่ได้อยากเพิ่มพลังให้หรอกนะ แต่ว่าในเมื่อกำจัดศัตรูได้ เอาพลังไปก็ได้"





เดินไปหลงไป

    เกมนี้ถ้าเป็นยุคนี้คงได้เรท 18+ เพราะว่ามีทั้งฉากลอบยิงสไนเปอร์เลือดสาด ยิงศัตรูตาย กระโดดถีบมอเตอร์ไซด์ระเบิด (ทำได้จริงๆ นะ) และยังมีฉากโป๊อีกตังหาก (มีสาวจะมา "นวด" พี่ดุ๊ก แต่มีเฉพาะในเวอร์ชั่นของญี่ปุ่น ของอเมริกาจะโดนตัดฉากนี้ไป) 

ฉากบ๊ะบ๊ะโอ้บ๊ะ มีให้เห็นแค่นี้ในเวอร์ชั่นอเมริกา

     สำหรับผมนั้นหลังจากใช้ความพยายามที่จะเล่นเต็มที่ โกงโดยการลดสปีดของเกมก็แล้ว อ่านเกมแฟ็กก็แล้ว ยังทนเล่นไปได้ถึงแค่ฉากที่ 4 จากทั้งหมด 13 ฉาก เนื่องจากในฉาก 4 เริ่มจะมีเขาวงกต หาทางไปไม่ถูก เลยหมดแรงจะเล่นต่อ (ไม่ได้อู้นะเพราะเริ่มใหม่ไป 37 ครั้งแล้ว มีภาพข้างล่างเป็นหลักฐาน) เพราะฉะนั้นใครมีพยายามอยากหามาเล่นก็ลองดูนะครับ เกมนี้กราฟฟิกไม่ค่อยสวย แต่เพลงประกอบใช้ได้ สไตล์รูปแบบการเล่นหลากหลาย จนบางทีงงเลย (ผมงงอยู่นานในฉากยิงเครื่องบินฉากที่ 2 ว่า ทำลายเครื่องบินได้รึเปล่า) แต่เนื้อเรื่องน่าสนใจ ถ้าใครอยากเล่น แนะนำให้หาเกมแฟ็กมาอ่านนะครับ เพราะบางทีเดินไปเดินมา หาทางไปต่อไม่เจองงตึ๊บเลยทีเดียว

  เริ่มเล่นใหม่ไป 37 ครั้งยังไปได้ไม่ถึงไหน

    แหล่งอ้างอิง