4.29.2554

Super Mario Bros. 3 (1988)

1. ความทรงจำหมายเลข 1

ปิดเทอมฤดูร้อนประมาณ 15 ปีก่อน


    จู่ๆ พี่ชายก็ได้เครื่องเกมแฟมิคอมพร้อมกับตลับเกมมาจากเพื่อน ผมกับพี่ชายก็เลยใช้เวลาปิดเทอมหน้าร้อนนั้นไปกับการเล่นเกมแฟมิคอม เราสองคนนั่งเล่นเกมกันบนชั้นสองของบ้านที่สุดแสนจะร้อน สิ่งที่จะช่วยบรรเทาความร้อนได้ก็มีแค่พัดลมเก่าๆ ตัวนึงที่แบ่งกันใช้ 2 คน เราต่อเครื่องแฟมิคอมเล่นกับทีวียี่ห้อเนชั่นแนลเครื่องเก่า ที่มีแค่ปุ่มกดช่อง 0-9 เพราะสมัยนั้นทุกคนเชื่อว่าการเล่นเกมกับทีวีนั้นจะทำให้ทีวีเสีย และเกมที่เราเลือกมาเล่นก็คือ เกมสุดยอดฮิตในสมัยนั้น คือ มาริโอ 3



    สมัยนั้นเราเชื่อกันว่ามาริโอ 3 นั้นเป็นสุดยอดนวัตกรรม เหมือนกับ Wii-mote หรือ Kinect สมัยนี้เลยทีเดียว เพราะ
    1. มาริโอสามารถเดินถอยหลังกลับได้ (ในขณะที่ภาค 1 และ 2 ที่ไม่ใช่มาริโออาละดิน ไม่สามารถทำได้)
    2. มีแผนที่ให้เลือกเดิน เลือกฉากที่จะเล่นได้ ไม่ใช่เป็นเส้นตรงอย่างที่เคยๆ
    3. มาริโอบินได้ (เฮ้ย!!) แปลงเป็นหิน ขว้างค้อน ว่ายน้ำโดยใส่ชุดกบ ใส่รองเท้าบู๊ท ขว้างดอกไม้ไฟ กินเห็นให้กลายเป็นตัวยักษ์ และตัวจิ๋วได้ (เอิ่ม สองอันหลังนี่ไม่ใช่แล้ว)
    4. ในเกมแต่ละฉากมีบอสเป็นลูกคุปป้า 7 ตัว แต่ละตัวคอยคุมเรือเหาะ แถมด่านสุดท้ายยังมีเจ้าคุปป้าอีก
ฯลฯ อีกมากมายนับไม่ถ้วน

    ในขณะที่พี่ชายเล่นอย่างเมามันส์นั้นเอง ผมก็มีหน้าที่ถือจอยที่สองคอยเล่นเป็นหลุยจิ แต่ก็นั่นแหละเกมที่ยิ่งใหญ่ ก็มาพร้อมกับความยากอันยิ่งใหญ่ แถมเกมสมัยก่อนก็ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเหมือนยุคปัจจุบัน เกมมาริโอนี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่าโลกของเกมยุคก่อนมันโหดร้ายแค่ไหนเมื่อเทียบกับในปัจจุบัน เรามาลองดูตัวอย่างจากบทสนทนานี้กัน


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปู่ "ทำอะไรอยู่น่ะหลานเอ๊ย"
หลาน "เล่นเกมมาริโอ 3 ในเกมบอยแอดแว๊นซ์ครับ ... โฮ่!! ตายซะแล้ว เล่นต่อเลยดีกว่า ตายซะเจ้าเต่า!"
ปู่ "โอ้ สมัยนี้มันดีเนาะ เมื่อก่อนสมัยปู่เล่นในเครื่องแฟมิคอมน่ะ พอมาริโอตายปุ๊ป ด่านที่มาริโอเคลียร์ได้หายไปหมดเลย ต้องเริ่มเล่นแผนที่นั้นใหม่หมด"
หลาน "โอ๊ะ สมานมันมาตามไปแว๊นแล้ว เดี๋ยวขอเซฟเกมก่อนนะหมาน"
ปู่ "สมัยก่อนเซฟเกมอย่างนี้ก็ไม่มี ต้องเล่นรวดเดียวให้จบ แถมเวลาฟ้าผ่า ไฟดับทีเนี่ย ต้องเริ่มเล่นใหม่หมด นอกจากนั้นยังอ่านเนื้อเรื่องไม่ออกด้วย เพราะมันเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด โอ้.. อดีตมันช่างโหดร้าย"
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   เอาล่ะครับมาถึงตอนนี้แล้ว เรามาลองดูกรณีนี้กัน ถ้าเกิดนักเล่นเกมที่ฝีมือกระจอกอย่างผมและนักเล่นเกมฝีมือเทพอย่างพี่ชายนั่งเล่นด้วยกัน แล้วเกิดผมทำเกมโอเวอร์ด้วยหลุยจิ ด่านที่เล่นผ่านโดยหลุยจิทั้งหมดจะต้องเริ่มเล่นใหม่ เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็คือ อย่าเกมโอเวอร์ เพราะว่าจะทำให้เสียเวลาและถ่วงความเจริญเป็นอย่างมาก ซึ่งสำหรับนู๊บที่รู้ตัวว่าตรูกากส์แต่ตรูอยากจะเล่น เกมมาริโอ้ 3 มีทางเลือกให้หลายทางเลือกเช่นกัน
    1. เล่นมินิเกม เปิดไพ่ หมุนสล๊อต ไปเรื่อย (แต่ทำไมมาริโอต้องยืนตูดแอ่น เวลาเข้าบ้านไปเจอเจ้าโทดหัวเห็ด)
    2. กดในตำแหน่งเดียวกับที่มาริโออยู่บนแผนที่จะเข้าสู่มินิเกม Mario Bros. เข้าไปเล่นเหยียบหัวกัน มันส์ดี

    
    3. นั่งอ่านคู่มือ หาทางลับและของลับที่ซ่อนอยู่ไปเรื่อยๆ เพลินดีเหมือนกัน
    4. ใช้ของที่ทำให้รอดแน่ๆ แล้วลองเล่น เช่น ปีกพีที่ช่วยให้บินได้ทั้งฉาก
    5. ดูคนอื่นเล่นไป พร้อมกับเด้งไปด้วยตอนมาริโอกระโดด
    6. (ข้อนี้ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง) พยายามเล่นโดยไม่ใช้ของ

2. ความทรงจำหมายเลข 2
    ผมกลับมาจากโรงเรียนตอนสิบโมงกว่ามาถึงบ้าน ปรากฏว่าเจอพี่ชายกำลังเล่นมาริโอ 3 ถึงปราสาทสุดท้ายของเจ้ามังกรคุปป้า ความคิดแว่บแรกคือ "ตอนผมอยู่ไม่เคยมาถึง สรุปแล้วผมถ่วงความเจริญใช่มั๊ย" และเป็นประจักษ์พยานเห็นเจ้าคุปป้าเหยียบอิฐก้อนสุดท้ายตกลงไปในหุบเหวมืดมิด

3. ปัจจุบันหมายเลข 1
    ผมกลับมานั่งเล่นเกมมาริโอ 3 บนเกมบอยแอดวานซ์จนจบ ได้ทำให้เจ้ามังกรโบว์เซอร์ตกลงไปในหุบเหวด้วยตัวเอง ช่วยเจ้าหญิงพีชออกจากที่คุมขัง นำความสงบสุขกลับมายังอาณาจักรเห็ด  แต่ก่อนหน้านั้นก็ทำมาริโอตายไปประมาณ 300 ชีวิต

4.27.2554

Diablo 2 (2000)


   สำหรับคนที่หลงเข้ามาก็จะบอกว่า บล็อกนี้เป็นบล็อกโชว์งานอดิเรกในเวลาว่างของผมเอง ซึ่งความคิดต้นเรื่องเกิดมาจากการที่ไม่มีเงินซื้อเกมใหม่ๆ ก็เลยนั่งเล่นเกมเก่าๆ เรื่อยไป โดยอ้างว่า "เกมเก่าๆ น่ะมันมีเสน่ห์" แต่ว่าเล่นไปเล่นไปฝีมือก็ยังกระจอกเหมือนเดิม ก็เลยรวมกันเป็น Retronoob ซึ่งแปลว่า บักกากส์นั่งเล่นแต่เกมโบราณ  
   
   วันนี้เราจะมาเริ่มต้นด้วย เกมทำลายเมาส์สุดคลาสสิกจากค่ายสุดคลาสสิก Blizzard นั่นก็คือ Diablo II นั่นเอง ซึ่งในปีนี้เกม Action RPG เกมนี้ก็มีอายุครบ 11 ปีแล้ว (เกมนี้ออกในปี 2000) ซึ่งปัจจุบันคำถามที่ทุกคนที่เคยเล่นเกมนี้ถามกันมากก็คือ เมื่อไหร่ภาค 3 มันจะออกซักทีฟะ เนื่องจากนั่งรอกันมายาวยืดหลายปีแล้ว ส่วนความคิดเห็นส่วนตัวของผมก็คือ ยังไม่ออกน่ะดีแล้ว เพราะตรูยังนั่งเล่นภาค 2 ไปได้ไม่ถึงไหนเลย

   เกม Diablo 2 นี้เป็นเกมที่ผมหยิบเอามาเล่นบ่อยมาก แต่เล่นแต่ละทีไปได้ไม่ถึงไหน ที่หยิบเอามาเล่นบ่อย เพราะ ตัวเกมมันมีความง่ายกับความซับซ้อนรวมกันอยู่ ความง่ายคือ การควบคุมในการเกม แบบที่ว่า ถ้าชอบก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก กดเมาส์รัวไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ฆ่าทุกคนได้เอง (ก๊ากๆ) แต่ในเวลาเดียวกัน ก็สามารถเลือกอาชีพ ใช้เวทย์มนต์ ปรับความสามารถไปเรื่อยๆ สะสมเกราะ อาวุธ ทำเควส ฯลฯ แต่ปัญหาใหญ่อย่างนึงที่ทำให้ต้องทำใจก่อนเล่นก็คือ กราฟฟิกจะเก่าไหนอ่ะ ขนาดตอนไปอ่านรีวิวเก่าๆ สมัยตอนเกมออกใหม่ๆ เค้ายังบ่นกันเรื่องภาพเลยว่า กราฟฟิกเก่าเกินไปแล้ว
  
   พูดเหมือนรู้เยอะแต่ว่ายังเล่นไปได้ไม่ถึงไหนเลยอ่ะ ล่าสุดไปได้ไกลที่สุด ไปเจอ Durial หัวหน้าของบทที่ 2 โดนพลังน้ำแข็งอัดเอา สู้ไม่ได้ตายซั่ม (ข้างล่างนี้เป็นวีดีโอของชาวบ้านที่โชว์การกำจัด Durial ในสองนาที อย่างเทพ)

   


   พอมานั่งดูวีดีโอคนอื่น เอาเกมแฟ็กมาอ่าน ก็เอิ่ม.. อืม.. ที่ผมเล่นมาทั้งหมดผมเล่นผิดมาหมดเลยนี่หน่า เล่นบาร์บาเรี่ยน ดันไปอัพสกิลพลังเวทย์มนตซะเยอะ ทั้งๆที่แทบจะไม่ได้ใช้ แถมพลังความสามารถดันเอาไปใส่ความสามารถฟันสองมือซะหมด พอมานั่งไตร่ตรองดูแล้ว ก็คิดว่าเออ มิน่าเล่นอยู่ตั้งนาน ไม่ได้ไปถึงไหนซะที เริ่มเล่นใหม่ก็ได้ฟะ และแล้วก็วนมาเป็นลูปการเริ่มเล่น Diablo 2 ครั้งใหม่ แล้วก็เล่นเป็น บาร์บาเรี่ยนเหมือนเดิม เปลี่ยนจากตัวเก่าที่ชื่อ บูบู เป็นตัวใหม่ที่ชื่อ บาบา


    กว๊า............า เล่นผ่านเควสที่ 2 ของบทที่ 1 แล้ว แล้วเมื่อไหร่จะเล่นจบเนี่ย เล่นวนไปวนมา

(อะไรนะไม่มีสาระหรอ เอาไว้คราวหน้าจะปรับปรุงแล้วกัน)

แหล่งอ้างอิง