5.10.2554

Khanju rules!

    เวลาผมอ่านรีวิวเกมจากสำนักต่างๆ ผมก็จะข้ามส่วนที่เป็นเนื้อหาบรรยายเวิ่นเว้อต่างๆ ไปอ่านสรุปผล และคะแนนที่เกมนั้นได้ พอมาเขียนบล็อกตัวเองบ้าง ปรากฏว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะให้มีคะแนน เพราะไม่ได้ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นรีวิวเกมเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอมาคิดดูอีกที มานั่งตัดสินแจกแต้มเกมที่เล่นก็น่าสนุกดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคราวนี้ผมก็เลยคิดระบบการให้คะแนนเกมออกมาเป็นสามระดับ โดยมีชื่อการรีวิวว่า
    "Khanju's Extremely Biased Game Review"
    
    หรือ "รีวิวเกมสุดเอียงโดยคันจุ๊" นั่นเอง โดยมีดารารับเชิญจากการ์ตูน คันจุ๊อั๋นเกินพิกัด ผู้ที่สนใจสามารถติดตามอ่านทั้ง 10 เอพพิโสดได้ที่ http://jakaruuth.blogspot.com/ (ซีซั่นสองจะมาเร็วๆ นี้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่) โดยคะแนนจะแบ่งเป็นดังนี้คือ

1. คันจุ๊ปาจอย


เป็นคะแนนสำหรับเกมที่เล่นแล้วเซ็ง เกมที่ได้คะแนนนี้ไม่จำเป็นต้องห่วยหรือแย่ (แต่เกมที่ห่วยหรือแย่ก็ได้คะแนนอันนี้เช่นเดียวกัน) แต่อาจจะยากเกินความสามารถคันจุ๊ แบบที่เล่นยังไงก็ไม่ผ่านซะที คันจุ๊เซ็งก่อนจะเล่นจบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่ผู้เล่นทั่วไปควรหลีกเลี่ยง





2. คันจุ๊นั่งเล่น
 

สำหรับคะแนนนี้ผมจะให้กับเกมที่นั่งเล่นได้เนียนๆ เพลินๆ แต่บางทีไม่ได้มีแรงบันดาลใจให้เล่นจนจบ ซึ่งรวมถึงเกมแนวแปลกใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ มีระบบการเล่นที่ดี แต่อาจจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ภาพไม่สวย เป็นต้น





3. คันจุ๊โชว์เมพ


มีน้อยเกมมากที่จะได้คะแนนในระดับนี้ เพราะนอกจากจะต้องเป็นเกมสุดเจ๋งแล้ว จะต้องเป็นเกมที่ผมนั่งเล่นจนจบด้วย ซึ่งบนโลกนี้มีไม่ถึง 50 เกม (ล่ะมั๊ง) โดยคะแนนจะเป็นรูปคันจุ๊ชี้นิ้วไปยังท้องฟ้า และแผดเสียงหัวเราะ "กว๊า...ฮ่า ฮ่า!!"




 
    เราก็ได้เห็นทฤษฎีกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันบ้างว่าสามเกมที่ผมเขียนถึงก่อนหน้านี้ ได้คะแนนระดับอะไรกันบ้าง

1. Diablo (2000)



   เกม Hack & Slay ในตำนาน แต่เล่นไม่จบซะที เอาไปแค่คันจุ๊นั่งเล่นพอ


2.  Super Mario Bros. 3 (1988)



    หนึ่งในเกมที่เล่นจนจบ ถึงแม้ว่ากว่าจะจบ มาริโอจะต้องเสียชีวิตไปหลายโหลก็ตาม ได้คะแนนคันจุ๊โชว์เมพ


3. Golgo 13 (1988)


    เกมนี้ไม่ต้องพูดถึง คันจุ๊ปาจอยแน่นอน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น