6.20.2557

Retronoob in Japan

เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาผมต้องไปทำธุระเรื่องงานที่ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนแห่งอนิเมะ มังงะ และเกมส์และได้มีโอกาสได้ไปเสียเงินให้กับ Arcade หรือร้านเกมของที่ญี่ปุ่น ก็เลยเอารูปต่างๆ มาให้ดูกันหน่อย

อย่างที่เล่าไปแต่แรกเนื่องจากมาธุระเลยไม่ได้ไปตะลุยดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของเหล่าผู้แสวงโชคสักเท่าไหร่ ได้แต่เจียดเวลากลางคืนก่อนนอนไปแวะตามอาเขตต่างๆ มากกว่า มาดูรูปกัน

ผมไปพักที่ UENO เป็นโซนหนึ่งของโตเกียว แล้วก็เป็นแหล่งที่พักยอดนิยมแหล่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว ส่วนนี้ของเมืองก็จะมีครบพร้อมทุกอย่าง ที่นักท่องเที่ยวต้องการ ตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านซื้อของฝาก ตึกม่วง ร้านเหลือง ร้านแดง ร้านส้ม ร้านชมพู ร้านเขียว ร้านฟ้า ร้านน้ำตาล ฯลฯ ที่เป็นรหัสลับที่ใช้เรียกกันมากมาย ผมโชคดีที่มาญี่ปุ่นเที่ยวนี้แบบแอบๆ มา ทำให้ลิสต์ของฝากไม่ยาวเท่าไหร่ มีแต่ลิสต์ขนมที่ซื้อฝากคันจุ๊อั๋น เลยเอาเวลาที่เพื่อนร่วมทริปไปซื้อของฝากไปนั่งเล่นเกม

ที่ Ueno มีร้านเกมร้านใหญ่ของ Taito อยู่ร้านนึง (Game Taito Station) ผมก็เลยไปอุดหนุนสักหน่อย

สภาพหน้าร้าน
เริ่มตั้งแต่หน้าร้านมีของหลอกล่อให้เราเสียเงิน ก็คือ ตู้หนีบ (หรือ เกี่ยว) ตุ๊กตา ซึ่งก็มีตุ๊กตามากมายหลายแบบ ช่วงนี้ที่ฮิตของของเล่น Line ได้แก่ Brown Cony และ อื่นๆ รวมถึง เจ้าหมีนอนกลิ้ง Rilakkuma ที่ผมอยากได้อยู่เหมือนกัน โอกาสที่จะได้ตุ๊กตาตัวใหญ่กลับเมืองไทย โดยเสียเงินแค่เพียง 100 เยน ต่อการจับหนึ่งครั้ง แต่ช้าก่อนถ้าเราหยอดไปทีเดียว 500 เยน เราจะมีโอกาสจับได้ 6 ครั้ง แทน 5 ครั้ง คือ แถมฟรีให้หนึ่งครั้งกันเลยทีเดียว โอกาสคืนดุลย์ประเทศไทย ใช้เงินร้อยเยนแลกตุ๊กตาตัวโตที่ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เฮ..........

เดินลงมาชั้นใต้ดินก็มีตู้หนีบตุ๊กตาอื่นๆ อีก
โฉมหน้ากองทัพ Rilakkuma ที่คอยมาดูดเงินคนที่ไปเที่ยว
ข้างบนนั้นเป็นความหวัง ความฝันลมๆ แล้งๆ ทั้งทริปผมเสียเงินไป 1500 เยน (ณ หลากหลายร้านอยู่) ไม่ได้ตุ๊กตากลับมาซักตัว จริงๆ แล้วที่หน้าตู้หนีบน่าจะมีแปะว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนกรุณาศึกษาข้อมูลประกอบการลงทุนทุกครั้ง ก่อนที่จะหยอดเหรียญร้อยเยนเข้าไปในตู้หนีบตุ๊กตานี้"

ตึก Taito ประกอบไปด้วย 5 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นชั้นใต้ดิน กับชั้นถัดขึ้นมาเป็นชั้นลอยเป็นชั้นที่มีของอย่างเครื่องหนีบตุ๊กตา หรือเกมตีกลอง และเกมอื่นๆ ที่ใช้แอคทิวิตี้เยอะๆ เล่นกันเป็นหมู่คณะ ไว้สำหรับล่อนักท่องเที่ยวขาจร ส่วนชั้นสูงขึ้นไปบรรยากาศจะดูฮาร์ดคอร์ขึ้นไปเรื่อยๆ ไว้เป็นที่เล่นคลายเครียดสำหรับเกมเมอร์ตัวจริง

ผมก็เลยไปอัดเกมตู้ Mario Kart ดูหนึ่งเกม จากทักษะที่ฝึกฝนมาตั้งแต่สมัยเล่นใน Gamecube และ Wii ทำให้ชนะได้ไม่ยาก แต่อารมณ์ที่ได้เล่นกับพวงมาลัยและคันเร่งมันสนุกกว่านั่งโยกจอยธรรมดาเยอะมาก

ตู้มาริโอ้คาร์ท
เล่น Bowser ได้ที่หนึ่งด้วย

 ชั้นบนของอาเขตสุดจะดูมืดๆ ทึม คลุ้งไปด้วยควันบุหรี่ (เค้าอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้) แบบน่ากลัวจะโดนไถตังค์ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้น คนอื่นเค้าก็เล่นไปดูดบุหรี่ไปตามประสาเค้า

และแล้วเราก็มาเจอ....


ตู้คุ้นมากๆ เหมือนเคยอยากเล่นตอนเด็กๆ (สมัยก่อนไม่มีเงิน ต้องไปยืนดูเค้าเล่น แต่แค่นี้ก็สนุกแล้ว) ก็เลยลองหยอดเล่นไปร้อยเยน เป็นเกมเครื่องบินยิงสองมิติเครื่องขวาสุด แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว (อาจจะมีชื่อแปะไว้เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่อ่านไม่ออก) เล่นไปจนเกมโอเวอร์ ดูแล้ว เดี๋ยวนี้เกมแนว Retro แบบนี้เค้าไม่ฮิตกันแล้ว บอร์ด Hi-score ว่างเปล่า มีแต่ชื่อผมอยู่คนเดียว พอเล่นรำลึกความหลังจบผมก็ไปหาอะไรอย่างอื่นทำต่อ


 วันต่อมาผมได้ไปหาข้าวกินกับเพื่อนที่ชินจูกุที่คนอย่างกับหนอน เพื่อนที่อยู่ที่นั่นเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่พึ่งจะเปิดเทอมใหม่พอดี คนก็เลยไปนัดเลี้ยงกันเยอะ คนก็เลยเยอะกว่าปกติ แล้วเพื่อนก็พาชมแหล่งทำบุญ บริจาคให้แก่เด็กยากไร้ในญี่ปุ่น

ร้านแรกเป็นร้านสำหรับซื้อเสื้อผ้านักเรียนบริจาคให้แก่เด็กยากไร้ในญี่ปุ่น ให้น้องๆ ในชนบทได้มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ไปเรียน

ส่วนอีกร้านเป็นการสนับสนุนเงินให้กับน้องๆ ที่ออกมาแสดงความสามารถพิเศษทั้งร้องทั้งเต้นให้ชมกัน


เนื่องจากผมเป็นใจเหี้ยมพอสมควร เลยไม่ได้บริจาคช่วยน้องทั้งสองร้าน

.
.
.
.
......
อะไรนะ ไม่ใช่หรอ

ปิดท้ายด้วย Rilakkuma ที่ทำท่าเหมือนจะตก แต่ไม่ยอมตกซะที อดได้กลับบ้านเลย


ติดตาม Retronoob ตอนใหม่ๆ และตอนเก่าๆ ได้ที่

Blogspot: http://fretronoob.blogspot.com/
Facebook: https://www.facebook.com/pages/Retronoob/654862671254418

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น