อย่างที่เล่าไปแต่แรกเนื่องจากมาธุระเลยไม่ได้ไปตะลุยดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของเหล่าผู้แสวงโชคสักเท่าไหร่ ได้แต่เจียดเวลากลางคืนก่อนนอนไปแวะตามอาเขตต่างๆ มากกว่า มาดูรูปกัน
ผมไปพักที่ UENO เป็นโซนหนึ่งของโตเกียว แล้วก็เป็นแหล่งที่พักยอดนิยมแหล่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว ส่วนนี้ของเมืองก็จะมีครบพร้อมทุกอย่าง ที่นักท่องเที่ยวต้องการ ตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านซื้อของฝาก ตึกม่วง ร้านเหลือง ร้านแดง ร้านส้ม ร้านชมพู ร้านเขียว ร้านฟ้า ร้านน้ำตาล ฯลฯ ที่เป็นรหัสลับที่ใช้เรียกกันมากมาย ผมโชคดีที่มาญี่ปุ่นเที่ยวนี้แบบแอบๆ มา ทำให้ลิสต์ของฝากไม่ยาวเท่าไหร่ มีแต่ลิสต์ขนมที่ซื้อฝากคันจุ๊อั๋น เลยเอาเวลาที่เพื่อนร่วมทริปไปซื้อของฝากไปนั่งเล่นเกม
ที่ Ueno มีร้านเกมร้านใหญ่ของ Taito อยู่ร้านนึง (Game Taito Station) ผมก็เลยไปอุดหนุนสักหน่อย
สภาพหน้าร้าน |
เดินลงมาชั้นใต้ดินก็มีตู้หนีบตุ๊กตาอื่นๆ อีก |
โฉมหน้ากองทัพ Rilakkuma ที่คอยมาดูดเงินคนที่ไปเที่ยว |
ตึก Taito ประกอบไปด้วย 5 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นชั้นใต้ดิน กับชั้นถัดขึ้นมาเป็นชั้นลอยเป็นชั้นที่มีของอย่างเครื่องหนีบตุ๊กตา หรือเกมตีกลอง และเกมอื่นๆ ที่ใช้แอคทิวิตี้เยอะๆ เล่นกันเป็นหมู่คณะ ไว้สำหรับล่อนักท่องเที่ยวขาจร ส่วนชั้นสูงขึ้นไปบรรยากาศจะดูฮาร์ดคอร์ขึ้นไปเรื่อยๆ ไว้เป็นที่เล่นคลายเครียดสำหรับเกมเมอร์ตัวจริง
ผมก็เลยไปอัดเกมตู้ Mario Kart ดูหนึ่งเกม จากทักษะที่ฝึกฝนมาตั้งแต่สมัยเล่นใน Gamecube และ Wii ทำให้ชนะได้ไม่ยาก แต่อารมณ์ที่ได้เล่นกับพวงมาลัยและคันเร่งมันสนุกกว่านั่งโยกจอยธรรมดาเยอะมาก
ตู้มาริโอ้คาร์ท |
เล่น Bowser ได้ที่หนึ่งด้วย |
ชั้นบนของอาเขตสุดจะดูมืดๆ ทึม คลุ้งไปด้วยควันบุหรี่ (เค้าอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้) แบบน่ากลัวจะโดนไถตังค์ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้น คนอื่นเค้าก็เล่นไปดูดบุหรี่ไปตามประสาเค้า
และแล้วเราก็มาเจอ....
ตู้คุ้นมากๆ เหมือนเคยอยากเล่นตอนเด็กๆ (สมัยก่อนไม่มีเงิน ต้องไปยืนดูเค้าเล่น แต่แค่นี้ก็สนุกแล้ว) ก็เลยลองหยอดเล่นไปร้อยเยน เป็นเกมเครื่องบินยิงสองมิติเครื่องขวาสุด แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว (อาจจะมีชื่อแปะไว้เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่อ่านไม่ออก) เล่นไปจนเกมโอเวอร์ ดูแล้ว เดี๋ยวนี้เกมแนว Retro แบบนี้เค้าไม่ฮิตกันแล้ว บอร์ด Hi-score ว่างเปล่า มีแต่ชื่อผมอยู่คนเดียว พอเล่นรำลึกความหลังจบผมก็ไปหาอะไรอย่างอื่นทำต่อ
วันต่อมาผมได้ไปหาข้าวกินกับเพื่อนที่ชินจูกุที่คนอย่างกับหนอน เพื่อนที่อยู่ที่นั่นเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่พึ่งจะเปิดเทอมใหม่พอดี คนก็เลยไปนัดเลี้ยงกันเยอะ คนก็เลยเยอะกว่าปกติ แล้วเพื่อนก็พาชมแหล่งทำบุญ บริจาคให้แก่เด็กยากไร้ในญี่ปุ่น
ร้านแรกเป็นร้านสำหรับซื้อเสื้อผ้านักเรียนบริจาคให้แก่เด็กยากไร้ในญี่ปุ่น ให้น้องๆ ในชนบทได้มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ไปเรียน
ส่วนอีกร้านเป็นการสนับสนุนเงินให้กับน้องๆ ที่ออกมาแสดงความสามารถพิเศษทั้งร้องทั้งเต้นให้ชมกัน
เนื่องจากผมเป็นใจเหี้ยมพอสมควร เลยไม่ได้บริจาคช่วยน้องทั้งสองร้าน
.
.
.
.
......
อะไรนะ ไม่ใช่หรอ
ปิดท้ายด้วย Rilakkuma ที่ทำท่าเหมือนจะตก แต่ไม่ยอมตกซะที อดได้กลับบ้านเลย
ติดตาม Retronoob ตอนใหม่ๆ และตอนเก่าๆ ได้ที่
Blogspot: http://fretronoob.blogspot.com/
Facebook: https://www.facebook.com/pages/Retronoob/654862671254418
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น